บทความนี้ใช้ระบบคริสต์ศักราช เพราะอ้างอิงคริสต์ศักราชและคริสต์ศตวรรษ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
ราฟาเอล นาดัล ปาเรรา (
สเปน: Rafael Nadal Parera) เกิดวันที่
3 มิถุนายน ค.ศ. 1986 เป็นนัก
เทนนิสอาชีพ
ชาวสเปน เขาเกิดที่เมืองมายอร์กา ประเทศสเปน และเริ่มเล่นเทนนิสเมื่ออายุได้ 4 ปี
โตนิ นาดัล ลุงของเขา ได้ทำหน้าที่เป็นโค้ชและดูแลเขามาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน เขาเริ่มการแข่งขันเทนนิสอาชีพในปี ค.ศ. 2001 ปัจจุบันเขาเป็นนักเทนนิสมืออันดับ 1 ของโลก เขาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่ดีที่สุดตลอดกาลตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 เป็นต้นมา
นาดัลได้กลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ทั้งคู่ได้รับการยอมรับว่าเป็นคู่แข่งขันที่สร้างความยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเทนนิสโลก
[2][3][4] โดยพบกันในรอบชิงชนะเลิศเทนนิสระดับแกรนด์สแลมถึง 9 ครั้งด้วยกัน
[5] ซึ่งนาดัลเป็นฝ่ายเอาชนะเฟเดอเรอร์ได้ถึง 6 ครั้ง สำหรับสถิติการเล่นเทนนิสอาชีพของทั้งคู่นั้น พบกันทั้งหมด 40 ครั้ง โดยเป็นชัยชนะของนาดัล 24 ครั้ง และเป็นชัยชนะของเฟเดอเรอร์ 16 ครั้ง
[6]นาดัลประสบความสำเร็จในการเล่นบน
คอร์ตดินเป็นอย่างมาก เขามีสถิติชนะบนคอร์ตดินในรอบชิงชนะเลิศ 32-4 (ชนะ-แพ้) นอกจากนี้ยังทำสถิติชนะติดต่อกันบนคอร์ตดินมากที่สุดในยุคโอเพน คือ 81 แมตช์ติดต่อกันตั้งแต่เดือนเมษายน ค.ศ. 2005 ถึงเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2007
[7] จากผลงานดังกล่าว เขาจึงได้รับการขนานนามว่าเป็นนักเทนนิสที่เล่นบนคอร์ตดินได้ดีที่สุดตลอดกาล หรือเป็นราชาของคอร์ตดินนั่นเอง
[8][9][10]ในปี ค.ศ. 2008 นาดัลเป็นนักเทนนิสอาชีพชาวสเปนคนที่ 2 ที่สามารถชนะเลิศรายการ
วิมเบิลดัน และถือเป็นนักเทนนิสคนที่สามในยุคโอเพนที่สามารถชนะเลิศรายการ
วิมเบิลดันและรายการ
เฟรนช์โอเพนติดต่อกันได้ในปีเดียวกัน โดยจะถือเป็นคนแรกหากเริ่มนับมาตั้งแต่ ค.ศ. 1980 (สมัย
บียอร์น บอร์ก) ต่อมา ในปี ค.ศ. 2009 เขาสามารถชนะเลิศรายการ
ออสเตรเลียนโอเพน จึงถือเป็นนักเทนนิสชาวสเปนคนแรกที่ชนะเลิศรายการนี้
[11]นาดัลทำสถิติได้แชมป์
เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ มาสเตอร์ 1000 มากที่สุดในโลก คือ 35 สมัย นอกจากนี้ยังช่วย
ทีมเดวิสคัพของสเปนคว้าแชมป์โลกได้ในปี
ค.ศ. 2004,
ค.ศ. 2008,
ค.ศ. 2009 ค.ศ. 2011 และ ค.ศ. 2019 เขาชนะเลิศรายการ
แกรนด์สแลม 19 สมัย สูงที่สุดเป็นลำดับที่ 2 ตลอดกาล โดยชนะเลิศรายการ
เฟรนช์โอเพนทั้งสิ้น 12 สมัย ซึ่งเป็น 4 สมัยติดต่อกันตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005-2008 (นับเป็นการทำสถิติเทียบเท่ากับบียอร์น บอร์ก) อีก 5 สมัยติดต่อกันในปี ค.ศ. 2010-2014 และล่าสุดสามสมัยซ้อนในปี ค.ศ. 2017-2019 ชนะเลิศรายการ
วิมเบิลดัน 2 สมัยในปี ค.ศ. 2008 และ ค.ศ. 2010 ชนะเลิศรายการ
ออสเตรเลียนโอเพนในปี ค.ศ. 2009 และชนะเลิศรายการ
ยูเอสโอเพน 4 สมัย ในปี ค.ศ. 2010 ค.ศ. 2013 ค.ศ. 2017 และ ค.ศ. 2019 นอกจากนี้เขายังได้เหรียญทองประเภทชายเดี่ยวจากการแข่งขันกีฬา
โอลิมปิกฤดูร้อน ค.ศ. 2008 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งเหรียญทองประเภทคู่ในปี ค.ศ. 2016 ณ รีโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล ผลจากการชนะเลิศ
รายการยูเอสโอเพน ในปี ค.ศ. 2010 ทำให้เขาสามารถทำ
แคเรียร์แกรนด์สแลม (Career Grand Slam) (ชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมครบทั้ง 4 รายการ) ได้เป็นผลสำเร็จ โดยถือเป็นนักเทนนิสชายคนที่ 7 ในประวัติศาสตร์วงการเทนนิสโลก และนับเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่ทำได้หากเริ่มนับจาก
ยุคโอเพน นอกจากนี้เขายังถือเป็นนักเทนนิสชายคนที่ 2 ของโลกที่สามารถทำ
แคเรียร์โกลเดนสแลม (Career Golden Slam) (ชนะเลิศรายการแกรนด์สแลมครบทั้ง 4 รายการ และได้เหรียญทองโอลิมปิก) ได้เป็นผลสำเร็จต่อจาก
อังเดร อากัสซี จากผลงานดังกล่าว เขาจึงได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในนักเทนนิสชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลในวงการเทนนิสโลก
[12][13][14]นาดัลเป็นนักเทนนิสมืออันดับ 2 ของโลก อยู่ถึง 160 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยมี
โรเจอร์ เฟเดอเรอร์เป็นมือวางอันดับ 1 ของโลก
[15] ต่อมาเขาสามารถแย่งมืออันดับ 1 ของโลกมาจากเฟเดอเรอร์ได้เป็นผลสำเร็จ โดยครองอันดับ 1 ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 2008 จนถึงวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 2009
[16] และกลับมาครองอันดับ 1 ได้อีกครั้ง ในวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 2010 หลังจากการชนะเลิศรายการ
เฟรนช์โอเพน ได้เป็นสมัยที่ 5
[17] จนกระทั่งในวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 เขาต้องเสียตำแหน่งมืออันดับ 1 ของโลกไปให้กับ
โนวัค ยอโควิชในปี ค.ศ. 2008 เขาได้รับรางวัล
Prince of Asturias Award ในหมวดกีฬา
[18]